(สร้อย) ฝันเฟื่อง ณเมืองโบราณ สมญาว่ากาญจน์ นี่แหละบ้านขุนแผน
สวยวิจิตรพิศดังเมืองแมน เมืองกาญจน์นี่แสนต่างสุขสันต์มั่นเทียว
ช.) ดั่งบุญหนุนให้เจอน้อง
ช่างงามลำยองงามผุดผ่องต้องใจ
สวยจิ้มลิ้มพริ้มเพราชวนให้
ลุ่มหลงร่ำไปคลั่งไคล้นงคราญ
ไยเธองามจริงยอดหญิงเมืองกาญจน์
แสนงามสคราญอ่อนหวานจริงเจ้า
หญิงงามทั่วแคว้นก็ไม่แม้นเมืองเรา
หัวใจต่างให้น้องยอดเยาว์
เห็นเพียงหน้าเจ้า อกมันเร้าเต้นรัว
ญ.) ถ้อยคำเพ้อพร่ำสุดแสน
เอาอย่างขุนแผนแสนเสนาะนั่นไง
ชายเจ้าชู้ใช้เชิงรักใคร่
ลวงหญิงอ่อนใจ คลั่งไคล้ใจปอง
ขุนแผนแสนร้ายเรื่องรักแล้วคล่อง
ทั้งพิม ลาวทอง นิ่มน้องบัวคลี่
แล้วยังไม่แคล้วแก้วกิริยาเทวี
หาวันว่างความรักไม่มี
น้องทายว่าพี่ต้องมีรักมากครัน
(สร้อย)
ช.) ได้ฟังน้ำคำเปรียบเปรย
น้องงามทรามเชย เจ้ามาเอ่ยหมิ่นใจ
ชายทุกคนเจ้าชู้เมื่อไหร่
ขุนแผนว่าไปเก่งหลายขบวน
ทั้งรักทั้งรบฝึกไว้ครบถ้วน
หญิงพอใจชวนชื่นชิดรักใคร่
น้องเอยอย่าหาว่าพี่ออกรับเกินไป
ผู้ชายบ้านขุนแผนหากใคร
แม้นลองรักใคร่จะสุขใจแน่นอน
ญ.) เบื่อฟังแล้วชายปากหวาน
พ่อหนุ่มเมืองกาญจน์หวานจนน่าหวั่นใจ
กลัวตกหลุมรักคลุมเครือได้
จะหวังฝากใจได้หรือยังแคลง
แต่พอนานไปลูกไม้สำแดง
รักพลันคลางแคลงหน่ายแหนงเมื่ออิ่ม
น้องกลัวอกหมองต้องช้ำชอกอย่างพิม
ขุนแผนชอบวางแผนหลอกพิม
รักเฝือเมื่ออิ่มก็สนิมเกาะใจ
ช.) อย่าเลยน้องเอยว่าขาน
เราอยู่เมืองกาญจน์ ต่างก็สุขสดใส
ทั้งหนุ่มสาวสำราญฤทัย
แก่เฒ่าสุขใจไม่ทุกข์เปรมปรี
ญ.) จริงซิ เมืองกาญจน์สุขสันต์เต็มที่
เพราะบารมีปิ่นศรีล้นเกล้า
คุ้มครองผ่องใสชื่นหทัยปวงเรา
แคว้นกาญจน์บ้านขุนแผนเพริศเพรา
ผืนดินใดเล่าจะสุขเท่าเมืองกาญจน์
(สร้อย)
|