ล้วน
ควันธรรม
ล้วน ควันธรรม
โดย
170
จาก " หนังสือรวมเพลงอมตะ " ของ คุณชาตรี ศิลปสนอง
เมื่อยามรุ่งสุริย์เรืองรอง แสงทองส่องฟ้าอำไพ สดสวย
ดูโน่นซิอะไร ไหน .. อ๋อ
.. นั่นหมู่ภมร .. งามตา แผ่วเบาดังสำลี ลอยลมไปไกล ต่างหมู่ดูวิไล บินไปบินมา
อาจารย์ล้วน ควันธรรม เป็นบุตรคนโตของนายลายและนางเฟื่อง ควันธรรม เกิดที่ธนบุรี
เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2455 มีพี่น้องร่วมมารดาเดียวกันและต่างมารดา
รวมทั้งสิ้น 7 คน
การศึกษา ประถมต้นที่โรงเรียนวัดสะพานสูง ประถมปลายที่โรงเรียนอัสสัมชัญบางรัก
ชั้นมัธยมที่โรงเรียนเซนต์คาเบรียล
ชีวิตครอบครัว ได้ทำการสมรสกับ คุณนันทา พันธุ์พฤกษ์ บุตรีขุนจำรูญภักดี
และนางตุ๊กตา พันธุ์พฤกษ์ เมื่อ พ.ศ.2499 มีบุตรธิดา รวมทั้งสิ้น 6 คน
ประวัติการทำงาน
- รับราชการกรมฝิ่น (กรมสรรพสามิต)
- รับราชการกรมโฆษณาการ (กรมประชาสัมพันธ์)
- กองดุริยางค์ทหารอากาศ
- และ ทำงานส่วนตัว สอนหนังสือ และประพันธ์เพลง จัดรายการวิทยุ-ทีวี
ตลอดมาจนกระทั่งถึงแก่กรรม
อาจารย์ล้วน ควันธรรม เป็นบุตรคนโต คุณพ่อรับราชการอยู่กรมฝิ่นในสมัยนั้น
เมื่อคุณแม่ถึงแก่กรรม เมื่ออาจารย์ล้วนอายุได้ 11 ปี
เนื่องจากมีนิสัยเป็นคนอยู่ไม่สุข ชอบคิดค้นคว้า วัยรุ่นเป็นนักมวยด้วยความจำเป็น
เพราะถูกรังแก มีพลอากาศเอกบุญชู จันทรุเบกษา เป็นเพื่อนคู่หู
ผลัดกันเป็นพี่เลี้ยงสมัยชกมวย ถ้าชนะได้รางวัลมาก็จะนำเงินมาซื้อของเลี้ยงเด็กๆ
แล้วจึงหันมาร้องเพลง ถ้าร้องเพลงได้เงินมาก็จะนำมาเลี้ยงเพื่อนฝูงและเด็กๆ
ชีวิตรักก็ธรรมดาๆ ประสาคนหนุ่มสมัยโน้น ด้วยความน้อยใจในผู้หญิง
จึงเอาความนั้นมาผูกเป็นเพลง แต่มิใช่ดังข่าวที่เขาร่ำลือกันว่า รักกับคุณจุรี
อุทัยกร ซึ่งเป็นเรื่องตรงกันข้ามขาวกับดำเลยทีเดียว รับราชการมาก็หลายที่
ร้องเพลงประกวดได้รางวัลหลายแห่ง เป็นคนปากร้ายแต่ใจดี โอบอ้อมอารี รักพวกพ้อง
เรื่องชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์เป็นเรื่องใหญ่ ใครๆ ชอบล้อว่าขวาจัด
อยู่กับเด็กๆ ตลอดมา รับเลี้ยงเด็กยากจน เด็กกำพร้าขาดผู้ปกครอง
ด้วยความใจดีนี่แหละ ทำให้คุณล้วนและครอบครัวลำบาก ยากจน
เพราะถ้าใครมาขอให้ช่วยเรื่องใดคุณล้วนจะช่วยทันทีหลายต่อหลายราย
เพราะความใจดีนี่แหละ จึงเป็นเรื่องที่ต้องทุกข์ใจมาตลอดและมีโรคหัวใจติดตัว
อาจารย์ล้วน ควันธรรม มีชีวิตอยู่ท่ามกลางการต่อสู้แม้นว่าจะมีชื่อเสียงโด่งดัง
แต่ท่านก็ยังคงดิ้นรนต่อสู้อยู่เสมอ บทเพลงและเสียงเสน่ห์ก้องกังวานทั่วประเทศ
แต่หากเบื้องหลังชีวิตของท่าน น่าเห็นอกเห็นใจยิ่งนัก ใครๆ ก็ชอบเสียงของท่าน
ครั้งหนึ่งเราเคยได้ยินเสียงของท่าน ดินแดนแห่งดอกบัวงาม
พอย่างเข้าเขตหน้าหนาว
ลมหนาวก็โชยพัดกระหน่ำ
แหวนที่เคยประดับนิ้วก้อย
และบางซื่อมันไม่ซื้อเหมือนบาง ฉันคิดถึงนางแล้วต้องร้องไห้
สนใจวิชาดนตรีตั้งแต่เป็นเด็กนักเรียน
เริ่มด้วยหีบเพลงปากซึ่งบรรเลงได้ดีมากสมัยที่คณะละคร "จันทโรภาส" ของ "พรานบูรพ์"
กำลังรุ่งโรจน์ชอบติดตามไปหัดร้องเพลงข้างๆ หลืบ
เมื่อภาพยนตร์พูดเสียงในฟิล์มเรื่องแรกเข้าฉายเมืองไทย " ริโอริต้า "
มีคนนิยมร้องเพลงฝรั่งกันมาก จึงได้ซื้อแผ่นเสียงของนักร้องมีชื่อมาฝึกฝน เช่น
คิด เพาเวล , จอน โบลท์ และ ลอเรนซ์ ทิเบต ระยะต่อมาท่านนิยมเสียงเทนเน่อร์ ของ
เนลสัน เอดดี้ ฝึกจากเพลง Rose Mary จนกระทั่ง ล้วน ควันธรรม ได้ฉายาว่า " เนลสัน
เอดดี้ " เมืองไทย และต่อมาได้ศึกษาการเรียนโน้ตสากลจาก " ครูสริ ยงยุทธ "
เพลงแรกที่แต่งชื่อเพลง " วิมานในฝัน " เมื่อ พ.ศ. 2477
ตั้งแต่นั้นเรื่อยมาเป็นเวลา 32 ปี ท่านได้แต่งเพลงทั้งคำร้องและทำนองประมาณ 300
เพลง สำหรับเพลงที่ท่านแต่งคำร้องเข้ากับทำนองเพลงสากลประมาณ 30-40 เพลง
เมื่อราว พ.ศ.2482 กรมโฆษณาการได้รับสมัครนักร้อง
ท่านได้ยื่นใบสมัครด้วยคนหนึ่งปรากฏว่า " สอบได้ " นักร้องยุคแรกนั้นคือ รุจี
อุทัยกร , มัณฑนา โมรากุล , และล้วน ควันธรรม คนริเริ่มตั้งวงดนตรีกรมโฆษณาการ
คือ หลวงสุขุม นัยประดิษฐ์ สมัยคุณวิลาศ โอสถานนท์ เป็นอธิบดี
ก่อนเข้าทำงานกรมโฆษณาการได้รู้จักกับ ร.ท.ประสิทธิ์ ยังปรีดา ร.น. และ ร.ท.เขียน
ธีมากร ซึ่งแนะนำให้ท่านเข้าไปร้องเพลงที่วิทยุศาลาแดง หรือ 7 พี.เจ.
หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้ไม่กี่ปี ท่านก็ได้ตัดสินใจลาออกจากราชการนักร้อง
นักแต่งเพลงโดยจัดวงดนตรีให้ชื่อว่า CHAMBER MUSIC ใช้นักดนตรี 4 คน
แสดงครั้งแรกที่ศาลาเฉลิมกรุง และตระเวนเล่นดนตรีที่วิกชั้น 1 อื่นๆ อีกประมาณ 4
ปี สมัยนั้นมีคู่แข่งสำคัญคือ "วงดุริยะโยธิน"
ระหว่างที่ทำงานอยู่กรมโฆษณาการ ได้แต่งละครวิทยุ 30-40 เรื่อง
เพลงที่เด่นในยุคนั้นมีอยู่ด้วยกันหลายเพลง เช่น แหวนประดับก้อย , คำปฏิญาณ ,
เสียงกระซิบสั่ง , ค่ำแล้วในฤดูหนาว , ผีเสื้อกับดอกไม้ , เพลินเพลงเช้า ,
ระกำดวงจิต และ ใจเป็นห่วง ฯลฯ
นอกจากเรื่องที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นนั้น สิ่งหนึ่งที่ไม่ควรจะลืมท่าน คือ
ท่านเป็นผู้ให้กำเนิดจังหวะเพลง " ตะลุงเทมโป้ "
โดยใช้ลีลาการเชิดหนังตะลุงของชาวใต้ให้เข้ากับจังหวะเพลงสากล ปรากฏว่า " ตะลุงเทมโป้
" ครื้นเครงดี และสร้างเพลงมาร์ช " ปฐพีไทย " จากคำปราศรัยของจอมพลสฤษดิ์
ธนะรัชต์ ฟังแล้วขนลุกขนพองด้วยเพลงเลือดแห่งความรักชาติ
ชื่อเสียงของ " ล้วน ควันธรรม " ยังไม่ตาย
บทเพลง ท่วงทำนอง
และเสียงอันเป็นเสน่ห์ของท่าน ยังคงเป็น "อมตะ" และนิรันดร
มัจจุราชไม่เว้นใครทั้งนั้น 27 มกราคม 2522 ท่านจึงจากไปอย่างไม่มีวันกลับ
ผู้ส่ง
: กังหันลม |